การกําหนดราคาแบบยืดหยุ่นรายชั่วโมง (Hourly Flex Pricing - HFP)

หากคุณลงทะเบียนในโครงการนำร่อง Hourly Flex Pricing ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละชั่วโมง เราจะเผยแพร่แนวโน้มราคาล่วงหน้าเจ็ดวัน โดยจะกำหนดราคาสุดท้ายล่วงหน้าหนึ่งวันในเวลา 16.00 น. โปรดติดตามราคาในสัปดาห์หน้า และปรับเปลี่ยนการใช้ไฟฟ้าให้เป็นช่วงเวลาที่ราคาถูกเพื่อประหยัดเงิน

ราคาดังกล่าวนี้รวมราคารายชั่วโมงแบบไดนามิกสำหรับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมการกําหนดราคาแบบยืดหยุ่นรายชั่วโมงจะรวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งข้อมูลและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เฉพาะเจาะจงสําหรับแผนอัตราปัจจุบันของคุณ
 

ราคาดังกล่าวรวมค่าสมัครสมาชิกซึ่งคำนวณตามการใช้พลังงานของคุณในวันและชั่วโมงเดียวกันของปีที่แล้ว หากคุณใช้พลังงานมากกว่าปริมาณที่สมัครสมาชิกไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เราจะเรียกเก็บค่าใช้พลังงานส่วนที่เพิ่มมาในราคาแบบไดนามิก หากคุณใช้พลังงานน้อยกว่าปริมาณที่สมัครสมาชิกไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง คุณจะได้รับเครดิตส่วนต่างตามราคารายชั่วโมงแบบไดนามิก
 

ลูกค้าเกษตรกรสามารถทำธุรกรรมราคาพลังงานล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 7 วัน วิธีนี้ช่วยให้สามารถกำหนดเวลาการใช้พลังงานโดยล็อกราคาตามที่เห็นในขณะที่กำหนดเวลาได้

ราคาจะแตกต่างกันไปตามสภาวะตลาด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาในการจ่ายไฟฟ้า (ราคาผลิต) และราคาในการจำหน่ายไฟฟ้า (ราคาจำหน่าย) โดยทั่วไป ในช่วงฤดูร้อนราคาจะสูงขึ้น (เดือนมิถุนายนถึงกันยายน) และจะลดลงในช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี

ราคาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย หรือเมื่อสภาวะเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อความต้องการไฟฟ้าโดยรวม เมื่อใช้โปรแกรมนำร่องนี้ คุณสามารถตรวจสอบแนวโน้มราคาล่วงหน้าได้หนึ่งสัปดาห์ และวางแผนการใช้พลังงานเมื่อราคาลดลงเพื่อประหยัดเงินได้ นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการนำร่องนี้ไม่มีความเสี่ยงดูที่ “การกําหนดราคาแบบยืดหยุ่นรายชั่วโมงไม่มีความเสี่ยงได้อย่างไร” ด้านล่าง 

การทำงานกับผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติที่สามารถส่งสัญญาณราคาไปยังอุปกรณ์ของคุณโดยตรง จะช่วยให้คุณจัดการการใช้พลังงานตามราคารายชั่วโมงได้

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณลดการใช้พลังงานในช่วงเวลาที่มีราคาแพงที่สุดในแต่ละวันได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น:

• เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะช่วยคุณจัดการระบบ HVAC
• เทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับบ้านและธุรกิจ
• อุปกรณ์สูบน้ำชลประทานเพื่อการเกษตรระบบอัตโนมัติ
• ระบบจัดการพลังงานที่ช่วยจัดตารางเวลาการดำเนินการผลิต
  

ผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติ (ASP) นำเสนอเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและการผสานรวมเพื่อจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อุปกรณ์โดยตอบสนองต่อราคาพลังงานที่เปลี่ยนแปลง

ผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติเพื่อกําหนดราคาแบบยืดหยุ่นรายชั่วโมงสำหรับลูกค้าเกษตรกร:

• Polaris Energy Services
  

ปัจจุบันเรากำลังรับสมัครผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติเพิ่มเติม เราจะอัปเดตเว็บเพจนี้เมื่อมีผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติเข้าร่วมเพิ่มขึ้น

เมื่อความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ย่อมส่งผลให้ระบบเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าของรัฐทำงานหนัก หากคุณหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูงสุด ก็จะช่วยป้องกันปัญหาอุปทานและอุปสงค์ที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับแบบหมุนเวียน ความต้องการที่ลดลงยังช่วยให้แน่ใจว่าสามารถจัดหาพลังงานสะอาดได้ โดยลดความจำเป็นในการใช้โรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลง  

คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนจาก PG&E โดยระบุวันที่ที่จะเปิดใช้งานบัญชีของคุณในโครงการนำร่อง

การเปิดใช้งานโครงการนำร่องจะตรงกับวันที่เริ่มต้นรอบการเรียกเก็บเงินจาก PG&E โดยปกติแล้วใบสมัครที่ได้รับและอนุมัติแล้วประมาณ 10 วันขึ้นไปก่อนเริ่มต้นรอบการเรียกเก็บเงินจะเปิดใช้งานในรอบการเรียกเก็บเงินถัดไปทันที แต่หากน้อยกว่า 10 วัน จะเปิดใช้งานในรอบการเรียกเก็บเงินสองรอบถัดไป

ลูกค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติหรือทำงานร่วมกับผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติควรพิจารณากำหนดเวลาการส่งใบสมัคร เพื่อที่การเปิดใช้งานโครงการนำร่องจะได้สอดคล้องกับความสามารถในการตอบสนองต่อราคาพลังงานรายชั่วโมงของโครงการ

ขอแนะนำให้ลูกค้าเข้าร่วมตลอดระยะเวลาในโครงการนำร่อง ซึ่งจะช่วยให้เราประเมินสิทธิประโยชน์ของแพ็คเกจราคาสำหรับลูกค้าและความน่าเชื่อถือของเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าได้ การเข้าร่วมโครงการไม่มีความเสี่ยง ดังนั้นคุณจึงจ่ายเงินสำหรับ Hourly Flex Pricing ไม่มากไปกว่าที่จ่ายในแพ็คเกจราคาปัจจุบันของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถยุติการเข้าร่วมโครงการได้ หากคิดว่าไม่เหมาะกับคุณ

ลูกค้าเกษตรกรที่ได้รับแรงจูงใจในการใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติจะต้องเข้าร่วมโครงการนำร่อง Hourly Flex Pricing สำหรับเกษตรกรจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2027 หากลูกค้ายกเลิกการลงทะเบียนจากโครงการนำร่องก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2027 จะต้องคืนเงินจากแรงจูงใจที่ได้รับไปตามสัดส่วน

โครงการนำร่องแพ็คเกจราคาแบบยืดหยุ่นรายชั่วโมงจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2027 ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงใด ๆ เมื่อสิ้นสุดโครงการนำร่อง ระบบจะเปลี่ยนกลับเป็นแพ็คเกจราคาปัจจุบันของลูกค้า 

คุณจะจ่ายเงินสำหรับ Hourly Flex Pricing ไม่มากไปกว่าที่จ่ายในแพ็คเกจราคาปัจจุบันของคุณ

ขณะที่อยู่ในโครงการนำร่อง:

• คุณจะได้รับใบแจ้งยอดค่าไฟฟ้า PG&E รายเดือนตามปกติ โดยค่าพลังงานจะขึ้นอยู่กับแพ็คเกจราคาปัจจุบันของคุณ
• และจะได้รับใบแจ้งยอด Hourly Flex Pricing รายเดือนเพิ่มเติม เพื่อติดตามประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าในขณะที่ร่วมโครงการนำร่อง
• หลังจากผ่านไป 12 เดือน หากคุณได้ผลลัพธ์จาก Hourly Flex Pricing ที่ดีกว่าแพ็คเกจราคาปัจจุบัน ก็จะได้รับเครดิตสำหรับส่วนต่าง 

สามารถเข้าร่วมในโครงการ Hourly Flex Pricing และ Demand Response คู่กันได้ดังต่อไปนี้:

• Smart Rate
• Peak Day Pricing
• โครงการนำร่องลดโหลดฉุกเฉินกลุ่มย่อย A1, A3 และ A6

ห้ามเข้าร่วมโครงการ Hourly Flex Pricing คู่กับโครงการดังต่อไปนี้:

• Base Interruptible Program, Capacity Bidding Program, Demand Response Automation, Mechanism Demand Response, Resource Adequacy Contracts, Demand Side Grid Support
• โครงการนำร่องตลาดที่ยืดหยุ่น
• โครงการลดโหลดฉุกเฉิน กลุ่มย่อย A2, A4 และ A5, กลุ่มย่อย B
• การจำกัดภาระผูกพันตามทางเลือก โปรแกรมลดโหลดตามกำหนดเวลา
• โครงการ Demand Response ด้านอุปทานหรือโครงการปรับเปลี่ยนโหลดตามเหตุการณ์ โดยไม่คำนึงถึงเอนทิตีที่ให้บริการโหลด
• ลูกค้าแบบรวมชุด PG&E ไม่สามารถลงทะเบียนโครงการ Green Saver, Local Green Saver, Regional Renewable Choice และ Solar Choice

ลูกค้า CCA สามารถลงทะเบียนได้หาก CCA ของตนเลือกเข้าร่วมโครงการนำร่อง ติดต่อ CCA ของคุณเพื่อดูกฎเกณฑ์คุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจง

ลูกค้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติใหม่เพื่อช่วยควบคุมโหลดไฟฟ้าของเกษตรกรตามราคารายชั่วโมงแบบไดนามิกอาจมีสิทธิ์ได้รับแรงจูงใจสูงถึง $160/kW ของโหลดที่ควบคุมได้ (ประมาณ $120/HP สำหรับปั๊ม) ต่อโครงการ

ค่าใช้จ่ายใดบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับแรงจูงใจสำหรับเกษตรกร

ค่าใช้จ่ายที่มีสิทธิ์ได้รับแรงจูงใจจะรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับฮาร์ดแวร์ การติดตั้ง ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตซอฟต์แวร์ และค่าธรรมเนียมบริการ เนื่องจากช่วยควบคุมโหลดไฟฟ้าตามราคารายชั่วโมงแบบไดนามิก

ข้อกำหนดคุณสมบัติทั่วไปสำหรับแรงจูงใจเพื่อเกษตรกรมีอะไรบ้าง

ลูกค้าต้องมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนำร่อง Hourly Flex Pricing เพื่อเกษตรกร โดยติดตั้งมิเตอร์ตามช่วงเวลาของ PG&E ที่ตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติ ส่งใบสมัครขอรับแรงจูงใจภายใน 90 วันนับจากวันที่ซื้อหรือติดตั้งโครงการ/เทคโนโลยี และยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการนำร่อง Hourly Flex Pricing เพื่อเกษตรกรจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2027 หากลูกค้ายกเลิกการลงทะเบียนจากโครงการนำร่องก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2027 จะต้องคืนเงินจากแรงจูงใจที่ได้รับไปตามสัดส่วน ลูกค้าสามารถสมัครรับแรงจูงใจได้มากกว่าหนึ่งรายการในโครงการต่าง ๆ ตราบเท่าที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์แรงจูงใจทุกข้อ

ฉันจะประมาณการจำนวนเงินแรงจูงใจเพื่อเทคโนโลยีสำหรับเกษตรได้อย่างไร

มีขีดจำกัดแรงจูงใจไว้ที่ $160/kW ของโหลดที่ควบคุมได้ (ประมาณ $120/HP สำหรับปั๊ม) สูงสุด 100% ของค่าใช้จ่ายในโครงการที่มีสิทธิ์ ไม่มีการกำหนดขีดจำกัดแรงจูงใจต่อลูกค้าหนึ่งราย เกณฑ์การพิจารณาโหลด kW ที่ควบคุมซึ่งได้ติดตั้งเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติใหม่ต้องส่งเอกสารประกอบใบสมัครขอรับแรงจูงใจด้วย Polaris Energy Services ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการของ PG&E สามารถช่วยลูกค้าในการประมาณการแรงจูงใจที่มีสิทธิ์ขอรับได้

การยื่นใบสมัครขอรับแรงจูงใจเพื่อเกษตรกรต้องใช้อะไรบ้าง

เมื่อส่งใบสมัครขอรับแรงจูงใจเพื่อเกษตรกร คุณต้องแนบเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบแจ้งหนี้พร้อมค่าใช้จ่ายโครงการที่มีสิทธิ์ การพิจารณาโหลด kW รูปถ่ายอุปกรณ์ควบคุม และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ติดตั้ง

เราจะดำเนินการตามใบสมัครขอรับแรงจูงใจได้หลังจากคุณกรอกใบสมัครเข้าร่วมโครงการ Hourly Flex Pricing สำเร็จแล้วเท่านั้น Polaris Energy Services ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการของ PG&E สามารถช่วยลูกค้าในการกรอกใบสมัครขอรับแรงจูงใจได้